ถ้ำพุงช้างมีข้อมูลว่าถูกบุกเบิกโดยนายเอกพัฒน์ ขำณรงค์ ซึ่งเขาเล่าขานว่าในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2543 มีสิ่งดลบันดาล

ใจมาเข้าฝันให้ตนไปเที่ยวถ้ำพุงช้าง นายเอกพัฒน์จึงชักชวนสมัครพรรคพวกเข้าไปสำรวจ เมื่อเข้าไปถึงกับตื่นตะลึงในความมหัศจรรย์สวยงาม

ภายในถ้ำอันเกิดจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติ หลังจากนั้นในปี 2544 ถ้ำพุงช้างก็ได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และได้รับการยกย่องให้

เป็นอันซีนไทยแลนด์ในปีเดียวกัน 

มุดพุงช้างสัมผัสความมหัศจรรย์ 

            ถ้ำพุงช้างตั้งอยู่ใต้เขาช้าง ในบริเวณเดียวกับ“วัดประพาสประจิมเขต” หรือ วัด “ถ้ำพุงช้าง” หลังศาลากลางจังหวัด ถ.เพชรเกษม อ.เมือง

จ.พังงา ปัจจุบันถ้ำพุงช้างเปิดให้เที่ยวชมภายในเพียงส่วนหนึ่ง โดยมีเอกชนมารับสัมปทานทำการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว 

            ถ้ำพุงช้างที่เปิดให้เที่ยวชมมีความยาวประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาเที่ยวภายในประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับการเข้าไปเที่ยวชมภาย

ในถ้ำพุงช้าง ก่อนเข้าถ้ำทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ไปสักการะ “พ่อตาเขาช้าง” ที่ “ศาลพ่อตาเขาช้าง” ที่ประดิษฐานอยู่ใต้หินชะง่อนเขาใกล้กับ

ปากทางเข้า พ่อตาเขาช้างเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่เมืองพังงาที่มีคนรำช้างจำลองมาแก้บนกันเป็นจำนวนมาก วางเรียงรายเป็นแถวเป็นแนวอยู่

ริมศาล 

            ถ้ำโบราณที่มีสายน้ำไหลผ่าน สามารถพายเรือเขาไปชมความงามของหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างแปลกตามากมาย โดยเฉพาะปลายหินที่รูปคล้ายช้างจำนวนมาก นอกจากนั้นถ้ำแห่งนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของค้างคาวหายากพันธุ์คุณกิตติ ซึ่งเป็นค้างคาวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย บริเวณปากถ้ำมีรอยจารึกพระปรมาภิไธยย่อของพระบาทสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเมื่อครั้งทรงมาประพาสต้นที่ถ้ำแห่งนี้ด้วย